วันอาทิตย์ที่ 4 เมษายน พ.ศ. 2553

สิงโต


สิงโต จัดอยู่ในสัตว์มีกระดูกสันหลัง เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม ซึ่งเป็นตระกูลเดียวกับแมว สิงโตมีขนาดลำตัวใหญ่ ขนาดไล่เลี่ยกับเสือโคร่งทั่วไป จัดเป็นสัตว์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดรองมาจากเสือโคร่งไซบีเรีย พื้นลำตัวสีสีน้ำตาล ไม่มีลาย ตัวผู้เมื่อโตเต็มที่จะมีขนสร้อยคอยาว ขนปลายหางเป็นพู่ ชอบอยู่เป็นฝูงตามทุ่งโล่ง มีน้ำหนักประมาณ 250 กิโลกรัม ประมาณ 550 ปอนด์ ตัวเมียมีขนาดเล็กกว่า มักทำหน้าที่ล่าเหยื่อ มีน้ำหนักประมาณ 180 กิโลกรัม ประมาณ 400 ปอนด์ มีถิ่นกำเนิดในทวีปแอฟริกาและประเทศอินเดีย ในป่าธรรมชาติ สิงโตมีอายุขัยประมาณ 10-14 ปี ส่วนสิงโตที่อยู่ในกรงเลี้ยงมีอายุยืนถึง 20 ปี

ถิ่นกำเนิด

สิงโตในอดีตพบกระจายอยู่ตามทวีปต่าง ๆ ทั่วโลก มีสายพันธุ์มากมาย แต่ได้สูญพันธุ์ไปหมดแล้ว ปัจจุบันพบเพียงแค่ในทวีปแอฟริกา ในทวีปเอเชียยังคงมีอยู่บ้าง เช่น บางแห่งในประเทศอินเดียแถบตะวันตก มี 6 สายพันธุ์ย่อย พบในทวีปแอฟริกา 5 สายพันธุ์ คือ สิงโตเซเนกัล พบในประเทศเซเนกัลและไนจีเรีย, สิงโตมาไซ พบในเอธิโอเปีย, โมซัมบิก, เคนยา, แทนซาเนีย, สิงโตคองโก พบในในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก, สิงโตกาทังกา หรือ สิงโตแองโกลัน พบในภาคตะวันตกเฉียงใต้ของทวีปแอฟริกา ในประเทศนามิเบีย, แองโกลา, บอตสวานา, ซาอีร์, แซมเบีย, ซิมบับเว และสิงโตขาว หรือ สิงโตทรานเวล พบในทวีปแอฟริกาตอนใต้บริเวณอุทยานแห่งชาติครูเกอร์ ซึ่งเป็นพันธุ์ย่อยอีกชนิดของสิงโตแอฟริกา ซึ่งมีสีขาวตลอดทั้งลำตัว แต่ไม่ใช่สิงโตเผือก เพิ่งมีการค้นพบและศึกษาเมื่อไม่นานมานี้
และในทวีปเอเชีย คือ สิงโตอินเดีย หรือสิงโตเอเชีย ซึ่งตัวเล็กกว่าสิงโตในทวีปแอฟริกา พบในภูมิภาคตะวันออกกลางจนถึงอินเดียตอนเหนือและภาคตะวันตก

วันพุธที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2553

เสือดาว ตอน4


เสือดาวมีความฉลาดและนิสัยระแวดระวังภัยมากกว่าเสือโคร่ง เวลาที่มันจะเข้าไปกินซากที่มันกินเหลือไว้จากคืนก่อน มันมักจะแอบดูเหตุการณ์อยู่นาน จนแน่ใจว่าไม่มีใครแอบซุ่มนั่งห้างคอยดักยิงมันอยู่ มันจึงจะค่อย ๆแอบเข้าไปกินซาก ไม่เหมือนกับเสือโคร่งที่มักเดินเข้าไปอย่างสง่าฝ่าเผย ศัตรูของเสือดาวก็คือเสือโคร่งนั่นเองที่มักมาแย่งอาหารของมันบ่อย ๆ นอกจากนี้ยังมีพวกหมาจิ้งจอกและหมาในที่มักเข้ามาแย่งซากสัตว์ของมันเช่นกัน
เสือดาวจะมีพื้นที่ในการหากินประมาณ 27 – 37 ตารางกิโลเมตร ส่วนใหญ่จะออกหากินตามลำพัง ยกเว้นในช่วงฤดูผสมพันธุ์หรือมีลูกอ่อน ปัจจุบันสถานภาพของเสือดาวในประเทศไทยมีจำนวนลดลง เหลืออยู่ตามป่าอนุรักษ์ต่าง ๆ เช่น ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน อุทยานแห่งชาติเขาสก ประมาณ 500 ตัวเท่านั้น
เสือดาวชอบอยู่สันโดษ จะจับคู่เมื่อถึงฤดูผสมพันธุ์เท่านั้น ตั้งครรภ์ประมาณ 90-100 วัน ออกลูกครั้งละ 1-4 ตัว และมีอายุในสภาพกักขังประมาณ 20 ปี

วันจันทร์ที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2553

เสือดาว ตอน3


เสือดาวอาศัยได้ในสภาพแวดล้อมหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นป่าหรือพื้นที่โล่ง ซึ่งมีหินและพุ่มไม้แห้ง ๆ แต่มันชอบสภาพป่ามากกว่า เสือดาวทนแล้งทนร้อนและอาศัยในพื้นที่ห่างไกลแหล่งน้ำได้ดีกว่าเสือโคร่ง ถ้าจำเป็นจริง ๆ เสือดาวก็ว่ายน้ำได้ แต่โดยปกติมันจะพยายามหลีกเลี่ยง เสือดาวชอบใช้ชีวิตบนต้นไม้และเคลื่อนที่ว่องไวไปตามกิ่งไม้ เสือดาวกินเหยื่อทุกชนิดที่จับได้ เช่น หมู กวาง ลิง นกยูง และหมา มันจะดักคอยเหยื่ออยู่บนต้นไม้และหลังจากฆ่าเหยื่อแล้ว จะลากเหยื่อกลับขึ้นไปกินบนต้นไม้ เพื่อป้องกันสัตว์กินซากมาแย่งอาหาร เสือดาวเริ่มกินเหยื่อที่บริเวณท้องก่อน ในขณะที่เสือโคร่งเริ่มกินที่สะโพกก่อน
เสือดาวมีวิธีอันชาญฉลาดในการจับค่างและลิงกิน โดยเสือดาวจะวิ่งเหยาะๆไปมาอยู่ใต้ต้นไม้ พวกลิงค่างบนต้นไม้ก็จะเริ่มตื่นกลัวและเตรียมตัวหนี โดยพากันกระโดดจากกิ่งหนึ่งไปอีกกิ่งหนึ่ง จากนั้น เสือดาวจะแสร้งทำท่าปีนต้นไม้ ลิงที่มีประสบการณ์น้อยจะหลงกลกระโดดลงพื้นเพื่อหาทางหลบหนีไปตามพุ่มไม้ แต่นั่นคือจุดจบของมัน เพราะเสือดาวจะหันมาไล่จับมันอย่างง่ายดาย
อาหารของเสือดาวนอกจากสัตว์กินพืชจำพวกเก้ง กวาง แล้วมันยังล่าเหยื่ออื่นๆอีกเช่น กระต่าย นกยุง ชะมด หรือแม้แต่สัตว์เล็ก ๆ มันก็กิน เช่น งู กิ้งก่า เป็นต้น เรียกได้ว่า เสือดาวกินสัตว์ทุกชนิดที่ล่าได้
การล่าของเสือดาวจะคล้ายกับเสือโคร่ง คือ การไล่ล่าโดยตรง การซุ่มดักเหยื่อ แต่จะแตกต่างไปบ้างก็ตรงที่มันอาจจะขึ้นไปพรางตัวสงบนิ่งอยู่บนต้นไม้ เพื่อรอคอยตะครุบเหลื่อที่ผ่านเข้ามาใกล้ เมื่อล่าเหยื่อได้มันจะกินบริเวณท้องและซี่โคร่งก่อน ต่างจากเสือโคร่งที่จะเริ่มกินเหยื่อบริเวณสะโพกก่อน

เสือดาว ตอน2


เสือดาว กับ เสือดำ เป็นเสือชนิดเดียวกัน ในลูกเสือครอกเดียวกันมีได้ทั้งเสือดำและเสือดาว เสือดาว จะมีลำตัวสีน้ำตาลอมเหลืองหรือสีเหลือง และมีลายจุดสีดำเป็นจำนวนมาก ลักษณะลายเป็นจุดเรียงตัวกันเป็นกลุ่มดอก ปรากฏเฉพาะบริเวณด้านหลังและด้านข้างลำตัว ส่วนที่หัว ขา เท้า และใต้ท้อง เป็นจุดสีดำโดด ๆ ส่วนขนใต้ท้องเป็นสีขาวหรือสีเทา
พบในแอฟริกา เอเชียใต้ และเอเชียตะวันออก เรื่อยมาถึงทางภาคใต้ของไทย มาเลเซีย และหมู่เกาะชวา ไม่เคยพบที่เกาะบาหลี เกาะสุมาตรามีน้อยมาก ปริมาณของเสือดาวเมื่อเทียบกับเสือโคร่งแล้วจะมีมากกว่าถึง 3-5 เท่า ในพื้นที่ ๆ มีเสือโคร่ง 1 ตัวอาจพบเสือดาวได้มากถึง 3-5 ตัว
เสือดาว สามารถแบ่งเป็นชนิดย่อย ได้มากมายถึง 30 ชนิด โดยที่เสือดาวแต่ละชนิดนั้นแตกต่างกันที่ลวดลายและขนาดของลำตัว และถิ่นที่อยู่อาศัยเนื่องจากเสือดาวมีถิ่นที่อยู่กระจายกว้าง รวมทั้งมีพฤติกรรมบางอย่างที่แตกต่างออกไปด้วย เช่น เสือดาวที่พบในทวีปเอเชียไม่ค่อยมีพฤติกรรมซ่อนเหยื่อบนต้นไม้เหมือนเสือดาวที่พบในทวีปแอฟริกา

วันอังคารที่ 23 มีนาคม พ.ศ. 2553

เสือดาว




เสือดาว


เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม เป็นสัตว์กินเนื้อที่มีขนาดใหญ่รองจากเสือโคร่ง ลำตัวสีน้ำตาลอมเหลืองหรือมีสีเหลือง มีลายจุดสีดำแต้มบริเวณลำตัวเป็นจำนวนมากโดยลายจุดจะเรียงตัวกันเป็นกลุ่ม ๆ โดยจะปรากฏเฉพาะที่บริเวณด้านหลังและด้านข้างของลำตัว แตกต่างจากบริเวณส่วนหัว ขา เท้า บริเวณใต้ท้องที่จะมีจุดสีดำปรากฏอยู่เช่นเดียวกับขนใต้ท้องที่มีสีขาวหรือสีเทา ขนาดความยาวหัวถึงลำตัว 107-129 เซนติเมตร หางมีความยาว 79.2 - 99.1 เซนติเมตร ใบหูมีความยาว 6.5 - 7.4 เซนติเมตร และหนัก 45 - 65 กิโลกรัม
เสือดาวและเสือดำ จัดอยู่ในเสือชนิดเดียวกัน ซึ่งส่วนมากคนโดยทั่วไปจะเข้าใจผิดว่า เสือดาว และ เสือดำ เป็นเสือคนละชนิด ซึ่งในการผสมพันธุ์ของเสือดาว ลูกเสือที่เกิดใหม่ในครอกเดียวกัน อาจมีลูกเสือได้ทั้งสองชนิดคือเสือดาวและเสือดำ โดยที่เสือดำจะมีสีขนปกคลุมร่างกายด้วยสีดำ ซึ่งมีลายจุดเช่นเดียวกับเสือดาว เพียงแต่กลมกลืนกับสีขนทำให้มองเห็นได้ไม่ชัด เสือดำมีชื่อเรียกได้หลายอย่างเช่น เสือลายตลับ เสือลายจ้ำหลอด


เสือดาวเป็นสัตว์เลือดอุ่น มักอยู่อาศัยในป่าโปร่ง สามารถขึ้นล่าเหยื่อบนต้นไม้ หรือ ลากเหยื่อไปกิน บนต้นไม้เพื่อหลีกหนีจากศัตรูได้ ตามลำตัวมีลายจุดสีดำ บนพื้นเหลือง


วันจันทร์ที่ 15 มีนาคม พ.ศ. 2553

เสือดำ


เสือดำ

เสือดำ เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม เป็นสัตว์กินเนื้อที่มีขนาดใหญ่รองจากเสือโคร่ง เสือดำมีชื่อเรียกได้หลายอย่างเช่น เสือลายตลับ เสือลายจ้ำหลอด

เสือดำ จะมีสีพื้นตามลำตัวเป็นสีดำ ถ้าสังเกตให้ดีจะพบว่าเสือดำก็มีลายเช่นเดียวกับเสือดาว เพียงแต่มองเห็นไม่ชัดนัก แต่จะมองได้เด่นชัดถ้าอยู่ท่ามกลางแสงแดด
เสือดำพบทางภาคใต้ของประเทศไทย และมีมากในประเทศมาเลเซีย

ขนาด
หัวถึงลำตัว ยาวประมาณ 107 - 129 เซนติเมตร หาง 80 - 100 เซนติเมตร ขนาดใบหู 6.4 - 7.5 เซนติเมตร มีน้ำหนักประมาณ 45 - 65 กิโลก

เสือดำแท้จริงแล้วคือเสือดาวแต่เป็นเสือดาวที่ขนเป็นสีดำปกคลุมไปทั้งตัว

เสือขาว


เสือขาว

เสือขาวไม่ใช่เสือเผือก เพราะเสือเผือกจะต้องไม่มีสีใด ๆ นอกจากสีขาว ขณะที่เสือขาวมีขนสีขาวคาดดำหรือน้ำตาล มีตาสีฟ้า ซึ่งเสือเผือกจะมีตาเป็นสีแดง ส่วนจุดเด่นอื่นของเสือขาว คือ มีจมูกและฝ่าเท้าสีชมพู ความจริงเสือขาวก็คือเสือโคร่งเบงกอลที่มียีนส์ขนสีขาวแทนสีส้มนั่นเองในสภาพการเพาะเลี้ยงเสือขาวอาจมีอายุยืนถึง 20 ปี จะตกลูกครั้งละ 3-4 ตัว ลูกของเสือขาวที่มีขนสีเหลืองเรียกว่า พันธุ์ทาง จะมีพันธุกรรมของเสือขาวอยู่ในเลือด ลูกรุ่นต่อมาจึงมีโอกาสเป็นสีขาวได้ ชาวป่าอินเดียเชื่อว่าเสือโคร่งสีขาวเป็นพญาเสือและเป็นเทพเจ้าผู้ทรงพลัง ดังนั้น จึงนิยมล่าเอาส่วนต่าง ๆ ของร่างกายเสือขาว เช่น หนวด หนังหน้าผาก หลังส่วนไหล่ (เพื่อนำมาเป็นผ้าคลุมไหล่ของหัวหน้าเผ่า) เล็บ เขี้ยว หาง มาเป็นเครื่องรางของขลัง จนเป็นสาเหตุให้เสือขาวสูญพันธุ์ในที่สุด

เสือขาว สัตว์หายากที่มีเพียงประมาณ 200 ตัวในโลกเสือขาวเป็นสัตว์หายากที่มีลักษณะปราดเปรียว สวยงาม